[SF]...ยืนผิดที่...Han x Bum-HANBUM-(Yaoi)
...3ปีที่ผมมีความสุขอยู่กับทงเฮ คือ 3ปีที่พี่ฮันต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดหรือเปล่า? .................... ...จะวางตัวเองฐานะอะไร...แค่ตัวแทนยังเป็นไม่ได้เลย...
ผู้เข้าชมรวม
3,695
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
N eL’ L
คำเตือน!!!
...บอกใว้ก่อนเลย ก่อนที่จะเลื่อนลงไปอ่าน ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคบอมอุเคะ เป็นฟิคฮันบอม...
บางคนอาจคิดว่าเป็นฟิคคู่แปลก แต่สำหรับเรามันไม่ใช่คู่แปลก เราชอบคู่นี้ เราชอบบอมเคะ...อย่าหัวเราะเยาะ อย่ามาเห็นเป็นเรื่องตลก
ใครที่ไม่ชอบ รับไม่ได้ ยึดติดกับฟิคคู่หลักเกินไป กรุณาอย่าอ่าน อย่าเม้น...เราไม่ชอบอ่านเม้นท์ที่เขียนไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง
อย่าเอาคู่ที่เราแต่งไปเปรียบเทียบกับคู่ที่คุณชอบ...อยากให้คอมเม้นท์ที่มันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องมากกว่านะค่ะ...
อ่านข้างบนแล้ว ถ้ารับได้ก็เชิญเลื่อนลงไปอ่านได้เลยค่ะ ^^"
เอาเพลงไปฟังเพื่อบิวต์อารมณ์ค่ะ เพลง ยืนผิดที่ ของหมอโอคค่ะ
เป็นแรงบันดาลใจของฟิคเรื่องนี้ค่ะ.... >>> http://www.mediafire.com/?5m1cnnf3mty
Title : …...ยืนผิดที่...
Cast : Hangeng x kim Kibum
By : JoChaN
..............
...เก็บใจให้เขาดีกว่ามั้ย ถ้าเธอไม่พร้อมจะมีฉันอยู่
ถามใจเธอย่อมรู้ดี ว่าแอบเว้นที่ให้ใคร
ไม่ต้องเผื่อรักให้กับฉัน คนที่เพิ่งรู้ตัวและเข้าใจ
ฉันเองที่ยืนผิดที่ใช่มั้ย เมื่อในหัวใจก็ยังรอแต่เขาคนดียว...
……………………..
...3 เดือนแล้วกับการจากลา
...2 เดือนแล้วกับการเริ่มต้นกับความรักครั้งใหม่
“คิบอมเหม่ออะไร หึ๊”
“เปล่าฮะพี่ฮัน”เด็กหนุ่มตอบรุ่นพี่ที่เดินเข้ามา ฮันคยองเอามือโยกหัวคิบอมที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เล่นๆตามความเคยชิน...
“ขี้โกหก เด็กไม่ดีนะนายน่ะ……..นี่แน่ะ!”ฮันคยองพูดจบ แล้วโน้มใบหน้าฝังปลายจมูกลงไปที่แก้มของคนรัก...
“อ่ะ...พี่ฮัน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”คิบอมพูด คิ้วย่นลงเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก...
“ขอ โทษแล้วกัน งั้นพี่ไม่กวนแล้ว”ฮันคยองกล่าวเสียงอ่อน....พร้อมกับเดินออกมาจากตรงนั้น ทันที...คิบอมมองตามคนรักของตัวเอง 2 เดือนแล้วที่เขาตอบตกลงคบกับพี่ฮัน
...เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าความห่วงใยที่พี่ฮันมีให้เขามาตลอดตั้งแต่เจอกันวันแรก มันคือความรัก....
เพราะตอนนั้นหัวใจของเขาเป็นของทงเฮไปแล้ว...
3 ปีที่คบกัน กับ 3เดือนที่เลิกลากัน ผ่านไปเร็วจริงๆเลยนะ...เลิกกันทั้งๆที่ทงเฮก็ไม่มีใคร และผมเองก็ไม่ได้มีใครอื่น...แต่เพราะเราเข้ากันไม่ได้.............อย่าง นั้นเหรอ?...
...ผม เสียใจนะที่เราเลิกกัน แต่ผมก็คิดเหมือนกันว่าเป็นแบบนี้คงจะดีกว่า...ผมดูแลใครไม่ได้ ผมยังไม่มีความรับผิดชอบพอ ผมให้ทงเฮไม่ได้ในบางอย่างทงเฮก็ให้ผมไม่ได้ในบางอย่าง ทงเฮอยากให้ผมเอาใจใส่เขามากกว่านี้ผมเองก็อยากให้ทงเฮเอาใจใส่ผมบ้างเหมือน กัน บางทีเราอาจจะเหมือนกันเกินไป...
...แต่เวลา 3 เดือน มันทำให้ผมลืมช่วงเวลา 3 ปีนั่นไม่ได้หรอก...
.................................................................................
“คิบอม...อร่อยมั้ย”
“อร่อยสิ พี่ฮันทำอะไรไม่อร่อยบ้างล่ะ”คิบอมยิ้ม กล่าวยอคนรักของตัวเอง..
“กินๆเข้า วันนี้มีออกไลฟ์ตั้ง 3 ที่” ฮันคยองบอกคิบอม พร้อมกับตักข้าวเข้าปากอย่างรีบเร่ง
“อื้ม แล้ววันนี้พี่ฮันขึ้นกี่ที่อ่ะ”
“ที่ เดียว รายการของฮีชอลน่ะ”ฮันคยองตอบ ใบหน้านิ่งๆไปนิด เฮ้อ...ควรจะชินใช่มั้ยความรู้สึกแบบนี้ แต่ยังไงมันก็ยังไม่ชินสักทีสินะ
“ไม่ เป็นไรนะพี่ฮัน แต่ยังไงพี่ก็จะไปกับพวกเราทั้ง3ที่ใช่มั้ย”คิบอมเห็นแบบนั้นก็อดสงสารไม่ ได้ เขารู้ดีว่าพี่ฮันรู้สึกอย่างไร...เจ็บปวดแค่ไหนที่ทำได้แค่ยืนมองเพื่อนๆ เต้นอยู่ข้างเวที
“คิบอมอยากให้พี่ไปหรือเปล่าล่ะ?”ฮันคยองถาม แล้วมองสบตากับคนตรงหน้า...คิบอมไม่ได้ตอบอะไร เขาหลบตา ใบหน้าแดงนิดๆ
“นั่น พี่ฮีชอลมาแล้ว”คิบอมหันไปเห็นฮีชอลเดินออกมาจากห้องพอดี...
“ฮีชอลมาทานข้าวด้วยกันสิ”ฮันคยองเรียกคนที่กำลังเดินออกมา...
“หน้า นายมันบอกว่าอย่าเข้ามาจะดีกว่า”ฮีชอลแซวฮันคยองเล่น...ความรู้สึกของฮันคยองน่ะเหรอ ไม่ต้องบอกให้ฮีชอลรู้ แต่เขาก็เดาออกมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ
“อะไรกันเล่า หน้าฉันก็ปกตินั่นแหละ”ร่างสูงพูดกับฮีชอลที่เดินมานั่งที่โต๊ะทานข้าวแล้ว...พร้อมทั้งตักข้าวมาวางใว้ตรงหน้าฮีชอล...
“ปกติ จริงเหรอ..แล้วเมื่อกี้คุยอะไรกันอยู่เหรอ เห็นคิบอมหน้าแดงๆ นายทำอะไรน้องชายฉันหรือเปล่า ห๊ะ!”ฮีชอลยังไม่เลิกแกล้งฮันคยอง ฮันคยองได้แต่ยิ้มๆ แล้วมองหน้าคิบอม...คิบอมไม่ยอมหันมาสบตาเขาเลย...
..............................................................
Inkigayo Studio
...ทุกคนพากันเดินเข้าสตูดิโอ ฮันคยองก็เดินอยู่ข้างคิบอมตลอด...
...อยากจับมือ อยากทำตัวเป็นเจ้าของมากกว่านี้ แต่อีกคนคงจะไม่พอใจ...
“คิบอมเมื่อคืนโทรไปไม่ยอมรับนะ ทำอะไรอยู่” ซีวอนเดินเข้ามากระแทกไหล่กับคิบอมเบาๆ เป็นการทักทาย
“อ้าว เหรอ...ฉันไม่ได้เช็คโทรศัพท์เลยอ่ะ แล้วนายมีธุระอะไรล่ะ”คิบอมหันไปยิ้ม แล้วก็พูดคุยกับซีวอน ไม่ได้หันมาสนใจร่างสูงเลยสักนิด...
“คิบอม เอากระเป๋ามา เดี๋ยวพี่เอาไปวางให้”ฮันคยองบอกพร้อมกับยื่นมือไปรับกระเป๋าจากร่างโปร่ง...
“ขอบคุณครับ”คิบอมหันมาตอบฮัน คยอง แล้วหันไปคุยกับซีวอนต่อ ไม่ได้สนใจสีหน้าที่ดูหงอยไปของฮันคยองเลยสักนิด
……………………………..
“พี่ฮัน ขอโทษที พอดีคุยกับซีวอนเรื่องงานน่ะ”ร่างโปร่งเดินมานั่งลงข้างๆฮันคยอง…เขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าฮันคยองดูเงียบไป..
“อื้ม...”ร่างสูงตอบแค่นั้น ทำทีเป็นสนใจหนังสือพิมพ์ในมือมากกว่า...ไม่ยอมเงยหน้ามามองคนที่เอ่ยขอโทษเขาเลย...
“อะไร กัน ยิ่งแก่ยิ่งใจน้อยหรือไง”คิบอมพิงศรีษะเข้ากับไหล่ของร่างสูง...ฮันคยองยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้ นานๆคิบอมจะอ้อนที ถึงจะไม่หวานเหมือนคนอื่น แต่นี่แหละคือ คิบอมที่เขาชอบ...ร่างสูงเอามือไปโยกหัวคิบอมเล่นอีกครั้ง คนตัวเล็กกว่ายิ้มตาหยี...
“แอบมาหวานกัน 2 คน น่าอิจฉาเชียว...”…ทั้งสองคนหันไปมองเจ้าของเสียงทักทาย...
“ทงเฮ!” คิบอมขยับตัวออกห่างจากฮันคยองทันที...
“ตกใจไปได้ โทษทีๆ ไม่เป็นก้างแล้ว”ทงเฮบอกยิ้มๆ แต่สายตาแบบนั้นมันยังเหลืออยู่ใช่มั้ย ความรักที่มีให้คิบอม...
...ทำไม ต้องรีบออกห่างขนาดนั้นด้วยนะ เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ คิบอม...เราอยู่ใกล้กัน เราแสดงความรักต่อกัน มันผิดมากนักเหรอ คิบอม? นายกลัวอะไรคิบอม? นายยังรักเขาอยู่ใช่มั้ยคิบอม? นายรักฉันบ้างหรือเปล่าคิบอม?...
...ฮันคยองมองคิบอมที่ยังคงส่งสายตามองตามหลังทงเฮจนทงเฮเดินห่างออกไปแล้ว...
“คิบอม ถ้าทงเฮมาขอคืนดี นายจะว่าไง?”คำถามที่ถามออกมาจากปากฮันคยอง ไม่สิออกมาจากใจของฮันคยองต่างหาก...
“พี่ฮัน...”คิบอมก้มหน้าลง...สายตาของทงเฮเมื่อครู่ เขารู้สึกได้.......ทำไมนะ? ความรู้สึกเจ็บปวดในใจ หัวใจของผมต้องการอะไร...
“กอดผมที...พี่ฮัน.....เกาะ...”ยังไม่ทันที่ร่างโปร่งจะพูดจบ ฮันคยองก็รวบร่างตรงหน้ามากอดใว้แน่น...คิบอมซบหน้าลงกับอกกว้าง...
...ความอบอุ่บจากอ้อมกอดของพี่ฮัน ช่วยทำให้ความสับสนในใจของผมหยุดลงทีเถอะ...
ฮันคยองลูบศรีษะร่างในอ้อมกอด...เขารู้ดีว่าคิบอมไม่เคยลืมทงเฮ
เขารู้ดีว่าคิบอมเจ็บปวด...เขาพร้อมทำทุกอย่างให้ความเจ็บปวดของคิบอมบรรเทาลงไป
ถึงแม้ว่าตัวเองจะต้องเจ็บยิ่งกว่าก็ตาม...
...หึ๊ ฮันคยองคนดี...
...หรือฮันคยองคนโง่กันแน่...
“อย่าปล่อยผมไปนะพี่ฮัน...”คิบอมพูดออกมาเบาๆแล้วกอดฮันคยองแน่น...
............................... ฉันไม่มีวันปล่อยนายไปหรอก............................ ถ้าการที่ฉันจับนายใว้.................................. ไม่ทำให้นายเจ็บ ปวด................................................................
................................................................
“พี่จับมือนายได้หรือเปล่าคิบอม...”ฮันคยองถามในขณะที่พวกเขากำลังเดินออกมาจากสตูดิโอ...
“ได้มั้ง ถ้าพี่อยากจับ”ตอบแบบนี้ก็แสดงว่าอยากให้จับเหมือนกันหรือเปล่า?...ร่างสูงคิดในใจ พร้อมกับฉวยมือคนข้างๆมากุมใว้ทันที...
...เขาคงมองไม่ผิดนะ กับอาการหน้าแดงของคนข้างๆ...
“มองมากนัก เดี๋ยวไม่ให้จับซะเลย”คนตัวเล็กกว่าพูด ทั้งๆที่สายตากำลังพยายามจะเสมองไปทางอื่น...
“หึ หึ ก็ชอบมองเวลาคิบอมเขินหนิ”ฮันคยองกระซิบข้างๆหูของคิบอม...คิบอมที่เป็นแบบ นี้มันทำให้เขารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก...เป็นแบบนี้นานๆได้มั้ย คิม คิบอม
“ไอ้พี่ฮันบ้า”คิบอมตอบยิ้มๆ...ยกมืออีกข้างมาปกปิดรอยยิ้มนั้นใว้...เขินไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว...ขอบคุณพี่ฮันนะ
พี่ฮันทำให้ผมมีความสุข...
ทุกครั้งที่อยู่ข้างๆพี่ฮัน พี่ฮันไม่เคยทำให้ผมเสียใจ...
พี่ฮันมักจะหันมายิ้มให้ผมเสมอ
พี่ฮันมักจะมาชวนคุย...
พี่ฮันมักคอยเป็นห่วงเป็นใยเกินกว่าเหตุเสมอ
ทำไมนะ ทำไมเมื่อก่อนผมไม่เคยนึกเอะใจกับสิ่งพวกนี้บ้างเลย
ผมขอโทษนะพี่ฮัน...
......
3ปีที่ผมมีความสุขอยู่กับทงเฮ
คือ 3ปีที่พี่ฮันต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดหรือเปล่า?
หรือแม้กระทั่งตอนนี้ ผมก็ยังทำให้พี่ฮันเจ็บปวดอยู่ใช่มั้ย?
ผมขอโทษ...ผมขอโทษ...
...เอนกายพิงร่างสูง ศรีษะพิงกัน มือใหญ่เกาะกุมแน่น ปิดตาหลับลงไปพร้อมกับความอุ่นใจ...
...ขอบคุณพี่ฮัน...
......................................................
“ตื่นๆ...พวก นายตื่นกันได้แล้วนะ”เสียงหัวหน้าวงตะโกนบอกทุกคนในรถ เมื่อรถตู้เคลื่อนตัวจอดลงบริเวณลานจอดรถ ของสตูดิโอต่อไปที่จะขึ้นโชว์...
“คิบอม ถึงแล้วนะ”ฮันคยองกระซิบบอกคนที่นอนซบอยู่ที่ไหล่ของตัวเอง...
“อื้อ...เร็ว จังอ่ะ”ร่างสูงอดหัวเราะน้อยๆไม่ได้ กับท่าทางครึ่งหลับครึ่งตื่นของคนข้างๆ...คิบอมยกแขนขึ้นบิดขี้เกียจ ก่อนจะลงไปจากรถ ตามด้วยฮันคยอง...
“หัวยุ่งหมดแล้วคิบอม...”ฮันคยองพูดพร้อมทั้งเอามือสางผมให้คิบอม...ร่างโปร่งยืนนิ่งปล่อยให้ฮันคยองจัดการให้...
“พอแล้วพี่ฮัน...”แต่อยู่ดีๆคิบอมก็โยกหัวหลบ...ฮันคยองงงๆ แต่พอหันไปอีกทางก็พอจะเข้าใจได้ดี...
...ทงเฮที่มารถคนละคันกัน กำลังมองมาทางเขาสองคน...
“เข้า ไปข้างในกันเถอะพี่ฮัน...”คิบอมพูดจบ ก็เดินเข้าไปในสตูดิโอทันที จนร่างสูงเองเดินตามแทบไม่ทัน...ทำไมต้องรีบเดินขนาดนั้นนะคิบอม...
“จะรีบไปไหนคิบอม...”ฮันคยองตะโกนไล่หลังคิบอมไป...แต่คนตัวเล็กกว่าก็ทำเป็นไม่ได้ยิน...ร่างสูงรีบวิ่งตามไปจนทัน แล้วฉุดแขนร่างโปร่งนั่นใว้
“คิบอม เป็นอะไรหรือเปล่า?”ฮันคยองถามคนตรงหน้า อย่างเป็นห่วง...สีหน้าคิบอมไม่ดีเลย
“พี่ ฮัน ผมไม่อยากเห็นสายตาแบบนั้นของทงเฮ”คิบอมก้มหน้าพูดกับฮันคยอง ไม่อยากให้พี่ฮันเห็นสายตาและใบหน้าที่สับสนของเขา...ไม่อยากให้พี่ฮันต้องคิดมากอีก...
“นายจะกลับปะ....”
“พี่ฮันลืมสัญญาที่ให้ใว้กับผมแล้วเหรอ...”คิบอมรู้ว่าฮันคยองจะพูดอะไร...แต่เขาไม่ต้องการ เขาไม่ได้ต้องการให้ฮันคยองปล่อยเขาไป
“พี่ ไม่เคยลืม...คิบอม แต่ถ้าการที่พี่ยื้อนายใว้ มันทำให้นายเจ็บปวด มันทำให้นายเป็นแบบนี้ พี่ก็ไม่มีความสุข...ที่ตรงนี้มันคงไม่ใช่ที่ของพี่...ในหัวใจนายไม่ได้มี พี่”ฮันคยองพูดเสียงสั่น เขาเองก็เจ็บปวดไม่น้อย อยากจะยื้อใว้ให้ถึงที่สุด...แต่จะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อเขาอยากเห็นคิบอมมีความสุข ไม่ใช่คิบอมแบบนี้...
2 เดือนที่ผ่านมา เขาเห็นคิบอมยิ้ม เขาเห็นคิบอมที่สดใสแค่ไม่กี่ครั้ง...ทั้งที่พยายามแล้วแต่เขาก็ยังทำให้คิบอมลืมทงเฮไม่ได้...
“ผม อยู่กับพี่ฮัน ผมไม่เจ็บปวดเลยสักนิด...แต่ถ้าเวลาแค่ 2 เดือน มันทำให้พี่ฮันยอมแพ้ก็ไม่เป็นไร”คิบอมสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของฮันคยอง...นัยน์ตาแดงระเรื่อ น้ำตาอุ่นคลอขัง หากแต่ก่อนที่มันจะได้หลั่งรินออกมา มือเรียวก็ปัดมันทิ้งไป...
...คิบอมเดินเข้ามาในสตูดิโอทันที เขาทรุดกายนั่งที่โซฟาอย่างเหนื่อยๆ...
เห็นแก่ตัว...เขาเห็นแก่ตัวมากเลยสินะ...
เขาเองก็ควรจะปล่อยพี่ฮันไปได้แล้วใช่มั้ย?
“เป็นอะไรไปหรือเปล่าคิบอม?”คิบอมที่นั่งหลับตา เอาศรีษะพิงไว้กับพนักพิงของโซฟาค่อยๆลืมตาขึ้นมา...
“นิดหน่อยฮะ”คิบอมกล่าวยิ้มๆ...
“ยิ้มของคิบอม ทำไมมันดูเหนื่อยอ่อนขนาดนั้นล่ะ”ฮีชอลนั่งลงข้างๆคิบอม ยกมือขึ้นลูบศรีษะเด็กหนุ่มรุ่นน้อง
“พี่ฮีชอล ผมอยากร้องไห้จังเลยฮะ”จะมีสักกี่คนกันที่เคยเห็นคิบอมร้องไห้...คิบอมปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเงียบๆ...
...เมื่อ อยู่กับคนที่พอจะใว้ใจได้ สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่มีให้กัน ไม่ต้องมีคำพูดอะไรมากมาย ทุกอย่างมันจะออกมาเองตามธรรมชาติ...
“ยังลืมทงเฮไม่ได้อีกเหรอ ฮันมันไม่ดีพอหรือไง”ฮีชอลถามตรงๆ...คิบอมมองหน้าของชายหนุ่มรุ่นพี่
“ผมสงสารทงเฮ...ผมอยากให้เขายิ้มเหมือนเดิม...แต่ผมไม่แน่ใจว่าถ้าให้กลับไปคบ กับเขาผมจะตัดสินใจยังไง...กับพี่ฮันเขาดีกับผมมาก ผมอยู่กับเขาแล้วรู้สึกอบอุ่น สบายใจ แต่ผมก็ดีแต่ทำให้เขาเจ็บปวด ผมควรปล่อยเขาไปใช่มั้ยพี่ฮีชอล”คิบอมระบายออกมาในที่สุด...ความสับสนนี่มัน ไม่ธรรมดาเลยนะ มันทรมาณเกินกว่าที่เขาเคยคิดใว้มาก...
“นาย คิดว่าปล่อยฮันไป แล้วเขาจะมีความสุขมากกว่านี้อย่างนั้นเหรอ ฮันต้องการอะไรนายไม่รู้หรือไง? ถ้าตอนนี้ไม่มีฮันนายจะรู้สึกอะไรมั้ย นายลองคิดดู”ฮีชอลตอบแบบนั้นแล้วเดินออกไป เขาอยากให้คิบอมคิดเองมากกว่าจะบอกอะไรไปทั้งหมด...
...เรื่องความรัก มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก...
...ต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะตามหามันเจอ...
...ต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะเข้าใจมันถูกทุกอย่าง...
...ต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะลืมมันลง...
..............................................
...หลังจากเสร็จงานของวันนี้ เมื่อคิบอมกลับมาถึงหอก็เข้าห้องนอนไปทันที เขานอนคิดอะไรไปหลายๆอย่าง
ความสับสนที่เกิดขึ้นจากตัวเขา เขาก็ต้องแก้มันด้วยตัวเอง...
“ก๊อกๆ”เสียงเคาะประตูดังมาจากประตูด้านนอก คิบอมค่อยๆลุกขึ้นไปเปิดประตู จะเป็นพี่ฮันหรือเปล่านะ...ใจเต้นแรงบอกไม่ถูกเลย...
...หลัง จากเสร็จงานไลฟ์3งาน พี่ฮัน พี่ฮีชอล พี่เย่ซอง พี่ซองมิน พี่ชินดง แล้วก็เรียวอุคไปออกรายวิทยุของพี่ลีทึกกับฮยอกแจกันต่อ ส่วนผมพรุ่งนี้ต้องไปปูซานเลยต้องกลับมาเตรียมตัวก่อน...
“อ้าว ทงเฮเองเหรอ”คิบอมตกใจเล็กน้อยเมื่อคนที่มาหาไม่ใช่พี่ฮัน แต่กลับเป็นทงเฮ...
“อยู่คนเดียวสินะ คนอื่นไปออกรายการวิทยุกันหมดเลยหนิ”ทงเฮเดินเข้ามายิ้มๆ แล้วคุยกับคิบอมเหมือนปกติ
“อื้ม พรุ่งนี้ต้องไปงานหนังที่ปูซานอีกน่ะ”คิบอมเดินตามมานั่งที่โซฟา...ข้างทงเฮ....เขารู้สึกเกร็งๆบอกไม่ถูก
“อยู่ห้องเหงาๆน่ะ เลยเดินมาหานาย มากวนหรือเปล่าเนี่ย”ทงเฮกดรีโมทต์เปิดทีวี แล้วหันหน้ามาถามคิบอม...
“ไม่หนิ เหงาๆเหมือนกัน”คิบอมตอบยิ้มๆ แล้วลุกขึ้นมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ซึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากโซฟาที่ทงเฮนั่งเท่าไหร่นัก...
“นายเนี่ยติดคอมจังนะ มาทีไรก็เห็นนั่งอยู่ตรงนั้นทุกที”ทงเฮหันมาคุยกับคิบอม...
...บรรยากาศที่ตอนแรกออกจะกดดันนิดๆ ค่อยๆเปลี่ยนไป เมื่อทั้งสองเริ่มคุยกันมากขึ้น จนเหมือนเป็นปกติ...
ทงเฮพยายามชวนคิบอมคุยหลายเรื่องเลยทีเดียว เพราะรู้ดีว่าคิบอมน่ะพูดไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่...
“ก็ ในอินเทอร์เน็ตมันมีอะไรให้เล่นตั้งหลายอย่างนี่ ไม่เหมือนทงเฮหรอก เปิดคอมทีไรก็เอาแต่เช็คเรตติ้งของตัวเองน่ะ”คิบอมแกล้งว่าทงเฮ แล้วก็อดหัวเราะไม่ได้กับท่าทีงอนๆของร่างตรงหน้า...
...ทงเฮทนไม่ไหวกับท่าทางหัวเราะเยาะของคิบอม เขากระโดดข้ามโซฟามายืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้ของคิบอม ผลักหัวคิบอมด้วยความหมั่นไส้...
“ปากดีนักน่ะ เดี๋ยวปั๊ดจับจูบซะนี่”ทงเฮแกล้งทำเป็นพูดเล่น ทั้งที่ในใจอดตื่นเต้นไม่ได้...คิบอมจะตอบเขาว่าอย่างไรนะ
“ทงเฮบ้า พูดอะไรน่ะ”คิบอมยิ้มเจื่อนๆ ไม่รู้จะตอบทงเฮไปอย่างไรดี...ไม่รู้ว่าทงเฮพูดคำนั้นด้วยความรู้สึกอย่างไรกันแน่...
“ก็ อยากจูบคิบอมนี่ ไม่ได้เหรอ”ทงเฮก้มหน้าลง พูดข้างๆใบหน้าของคิบอมด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ...ก็รู้ว่าไม่ควร แต่มันก็อยากทำจริงๆนี่นะ...เอาแต่ใจอีกแล้วสินะ ขอโทษนะคิบอม ขอโทษนะพี่ฮัน...
“อืม...ได้ แต่สัญญาได้มั้ย ว่าต่อไปนี้ทงเฮจะยิ้มให้ผม จะไม่ทำหน้าแบบนั้นกับผมอีก จะไม่มองผมแบบนั้นอีก...”คิบอมตอบทั้งๆที่ตายังคงจ้องไปทางจอมอนิเตอร์ของ เครื่องคอมพิวเตอร์...
...มันทำให้นายลำบากใจสินะคิบอม...
“ได้..สัญญา” ทงเฮตอบพร้อมกับเอามือสอดใต้ท้ายถอยของคิบอมให้ใบหน้าของคนที่นั่งอยู่แหงน ขึ้นมา...แล้วจูบลงไปบนริมฝีปากของคิบอม...ริมฝีปากที่ไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป แล้ว...
“เหนื่อย จังเลยวันนี้ อ่ะ! พวกนาย!!~”เสียงฮีชอลดังมาจากหน้าประตู ทำเอาทั้งสองคนตกใจ...แต่สิ่งที่ทำให้คิบอมใจเต้นแรง ไม่ใช่เพราะฮีชอล แต่เป็นเพราะเจ้าของดวงตาเศร้าที่มองมายังเขานั่นต่างหากล่ะ...คนที่ยืนอยู่ ด้านหน้าของพี่ ฮีชอล......................................................พี่ฮัน............................................................................
“พี่ฮัน...”คิบอมเรียกออกมาเสียงแผ่ว ไม่รู้จะพูดคำไหนดี...ไม่มีคำไหนเลย มันอื้ออึงไปหมด...
ฮันคยองเดินเข้าห้องไป แล้วทิ้งใว้แค่เสียงประตูที่ถูกปิดลง ดังก้องเสียจนฮีชอลอดตกใจไม่ได้...
“พวกนายกำลังทำอะไรกัน...ทำไมทำแบบนี้ตอบฉันมาสิ๊”ฮีชอล ผลักไปที่ไหล่ของคิบอม...เขาโมโห โมโหสองคนนี้มาก...โดยเฉพาะคิบอม
...ทั้งๆ ที่คบกับฮันอยู่แล้ว แล้วทำไมถึงยังทำแบบนั้นกับทงเฮอีก...ทำไมถึงหักหลังฮันแบบนี้...ฮีชอลรู้ รู้ว่าฮันรักคิบอมมานานเท่าไหร่...และรู้ว่าฮันรักคิบอมมากแค่ไหน...ฮันต้อง เจ็บปวดเพราะคิบอมมากี่ครั้งแล้ว...
“พี่ ฮีชอล ผมผิดเองฮะ ผมขอจูบคิบอมเอง”ทงเฮพูดขึ้นมาอย่างรู้สึกผิด เขาทำให้เกิดเรื่องยุ่งจนได้...ถ้าเขารู้จักหักห้ามใจ เรื่องแบบนี้มันคงไม่เกิดขึ้น...
“นายไม่ ต้องพูด!! กลับห้องนายไปซะ!” ฮีชอลไล่ทงเฮออกไป คิบอมหันไปพยักหน้าให้ทงเฮออกไป ทั้งสองคนรู้ดีว่าถ้าฮีชอลโมโห แล้วไม่ทำตามที่บอก มันจะเกิดอะไรขึ้น...
“ฉัน ไม่อยากพูดอะไรอีกต่อไปแล้วนะคิบอม เพราะถ้าฉันพูดไปความเป็นพี่เป็นน้องของเราคงไม่เหมือนเดิมแน่ๆ”ฮีชอลพูดจบ แล้วเดินเข้าห้องของตัวเองไปทันที...
คิบอมทรุดกายนั่งลงที่เก้าอี้ เอาอีกแล้ว เขาทำให้พี่ฮันเจ็บปวดอีกแล้วสินะ...ทำไมนะ...ทำไม?
................................................................
ก๊อกๆ
“พี่ฮันฮะ...”คิบอมตัดสินใจมาเรียกร่างสูงที่หน้าห้อง...
“ผมขอเข้าไปคุยได้มั้ยฮะ”...ไม่มีเสียงตอบรับใดๆดังออกมาจากคนในห้องเลยสักนิดเดียว...
...คิบอมยืนรอสักพัก เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เขาเองก็จนปัญญา คิบอมจึงเดินเข้าห้องของตัวเองไป...เขาเองก็ไม่เคยต้องง้อใครแบบนี้...ทำได้ ดีที่สุดก็เพียงเท่านี้ ถึงแม้พี่ฮันจะเปิดประตูให้เขาเข้าไป เขาเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน...พี่ฮันคงเบื่อคำขอโทษของเขาเต็มที... คิดมาถึงตรงนี้คิบอมก็แค่นยิ้มกับตัวเอง...ดีแล้ว พี่ฮันจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดเพราะเขาอีก...ให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เถอะ...
อีก ด้านหนึ่ง...คนในห้องนั้น...ทันทีที่เข้ามาถึง เขาก็ได้แต่หลั่งน้ำตาระบายความเจ็บปวดภายในใจ...ทำยังไง ดีแค่ไหนที่ตรงนั้นก็คงยังไม่ใช่ที่ของฉันอยู่ดีนั่นแหละ...เขากลับมาแล้ว หนิ ที่ตรงนั้นเป็นของทงเฮไม่เคยเปลี่ยนแปลงสินะ...ทงเฮไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน เลย แล้วเราจะไปแย่งยืนตรงนั้นได้ยังไงกัน...โง่ชะมัดเลยนะ ฮันคยอง...
...จะวางตัวเองฐานะอะไร...แค่ตัวแทนยังเป็นไม่ได้เลย...
...............................................................
ก็อกๆ
“ฮัน คยองงงงง~~...ฉันหิวแล้วนะ นายเสียใจฉันรู้ แต่ฉันไม่มีอะไรจะกินนะ”ฮีชอลไปยืนโอดครวญอยู่หน้าห้องของฮันคยอง....สักพัก ฮันคยองก็เปิดประตูออกมา...
“ขอโทษที จะไปทำให้กินเดี๋ยวนี้แหละ...เอ่อ แล้ว...”ร่างสูงส่งสายตามองไปที่ประตูห้องของคิบอม....
“ออกไปปูซานตั้งแต่เช้าแล้วแหละ...”ฮันคยองพยักหน้า นัยน์ตาเศร้าลงไปอีก...
“ตา บวมเชียวนะ...ร้องไห้ทั้งคืนล่ะสิ”ฮีชอลเดินตามฮันคยองเข้ามาในครัว แล้วเอ่ยแซว...ดูเหมือนจะพูดไปแบบนั้น แต่นั่นมันก็เพราะเป็นห่วงฮันคยองนะ
“อื้ม...”ร่างสูงก็ตอบรับอย่างไม่ปิดบัง...ปิดไปคนคนนี้ก็รู้อยู่ดีนั่นแหละ
“พอ กันแหละ กับคิบอม เพิ่งเคยเห็นคิบอมตาบวมเพราะร้องไห้”ฮีชอลทำเป็นพูดลอยๆเหมือนไม่ได้ตั้งใจ บอกฮันคยอง..หากแต่ร่างสูงก็รีบหันมามองหน้าฮีชอลทันที....เขาอยากรู้เรื่องของคิบอมมากกว่านี้
“เขาตาบวมมากมั้ย งานวันนี้เป็นงานใหญ่ด้วยสิ”ฮันคยองพูดแล้วถอนหายใจด้วยความเป็นห่วง...
“ยังอดเป็นห่วงไม่ได้สินะ ขนาดว่าคิบอมมันทำนายเจ็บขนาดนี้...”ฮีชอลว่าฮันน้ำเสียงยิ้มเยาะ...
“อื้ม...ห่วง สิ จะไม่ห่วงได้ยังไงล่ะ ฉันรักเขาหนิ”ฮันคยองตอบแค่นยิ้ม...รัก ยังไงๆมันก็รักนั่นแหละ ต่อให้คิบอมทำให้เขาเจ็บมากมายกว่านี้อีกกี่ล้านเท่า เขาก็เชื่อว่าเขาจะยังรักคิบอมอยู่...
“เดี๋ยวก็เจอ นายก็มองเอาเองสิ”ฮีชอลตอบแบบหมั่นไส้ๆ...เขายังโมโหคิบอมกับทงเฮไม่หาย แต่ไอ้เจ้าตัวกลับพูดจาน่าหมั่นไส้ซะนี่...
“ห๊ะ วันนี้คิบอมจะมาขึ้นไลฟ์ด้วยเหรอ”ฮันคยองหันไปถามฮีชอล ด้วยท่าทางอยากรู้...
“อื้ม...”ฮีชอลตอบแค่นั้นแล้วก็เดินออกไปจากห้องครัวทันที...
........................................................
Studio xxx
“ขอโทษครับที่มาช้า...”คิบอมก้มหัวขอโทษทุกคน เมื่อเขามาถึงเป็นคนสุดท้าย....ในขณะที่ทุกคนมานั่งอยู่ในห้องพักกันทุกคนแล้ว
“ขอโทษอะไรกัน นายอุตส่าห์รีบมาจากปูซานก็ดีถมแล้ว”ลีทึกลุกขึ้นมาตบไหล่คิบอม...ร่างโปร่งหันไปยิ้มให้
“ทุกคนพร้อมจะขึ้นซ้อมหรือยังครับ?”เสียงสต๊าฟตะโกนถามมาจากหน้าห้อง...
“คิบอมนายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิ”คังอินหันไปบอกกับคิบอม...ในขณะที่ตัวเองก็กำลังตักข้าวเข้าปากอย่างรีบเร่ง...
“ไม่เป็นไรๆ ซ้อมชุดนี้ก็ได้ เพลง Missin’U ไม่ได้เต้นอะไรมาก”คิบอมเห็นว่าทุกคนมารอกันนานแล้ว ก็ไม่อยากให้มันเสียเวลามากไปกว่านี้จึงขึ้นไปซ้อมทั้งๆชุดสูทที่เขาใส่ไป ออกงานนี่แหละ...
...ในระหว่างที่เดินขึ้นเวทีเขาก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาหนึ่งกำลังจับจ้องเขาอยู่ เมื่อหันไปก็เห็นฮันคยองยืนอยู่ข้างๆเวที...
...ไลฟ์นี้พี่ฮันไม่ได้ขึ้นสินะ อยู่บ้านคงจะเหงาก็เลยมากับพวกเราด้วย...
...เมื่อซ้อมเสร็จคิบอมก็เดินมานั่งลงที่โซฟาอย่างเหนื่อยๆ ตามด้วยเย่ซองที่เดินมานั่งข้างๆกัน...
“ดูนายเหนื่อยๆนะคิบอม ไหวมั้ยเนี่ย”เย่ซองหันมาถามคนข้างๆ
“ไหวสิ...”ร่างโปร่างหันมาตอบยิ้มๆ รู้สึกดีใจนะที่พี่เย่ซองอุตส่าห์เป็นห่วงเขาด้วย
“ความ จริงนายอยู่ตั้งปูซาน ไม่ต้องกลับมาก็ได้นี่น่า ทำไมไม่บอกผู้จัดการไปล่ะ”เย่ซองแนะคิบอม อารมณ์ขึ้นนิดๆที่ไม่ยอมแบ่งเวลาให้คิบอมพักบ้าง
“ชั่งเถอะ ผมไหวน่ะ เอาใว้ถ้าไม่ไหวจริงๆผมจะบอกเขา”คิบอมตอบยิ้มๆ หัวเราะนิดหน่อยกับท่าทางอารมณ์ขึ้นของเย่ซอง นานๆจะได้เห็น...
“เอ๊ะ คิบอมตานายบวมๆนะ”เย่ซองก้มหน้ามาดูใกล้ๆ
“อ้อ สงสัยนอนไม่พอน่ะ เมื่อคืนตื่นเต้นไปหน่อยนอนไม่ค่อยหลับ”คิบอมตอบปัดไป...เย่ซองพยักหน้า ยิ้มๆกับท่าทางของรุ่นน้อง...งานใหญ่ขนาดนั้นเป็นใครได้ไปก็คงจะตื่นเต้น เป็นธรรมดาแหละนะ...
...แต่ไม่ใช่คิม คิบอม...
.
...ถ้า ไม่ใช่เพราะเรื่องเมื่อเย็นวาน เขาก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่าตื่นเต้นมากที่ได้ไปงานวันนี้ หากแต่ตอนนี้ภายในใจของเขาไม่ได้รู้สึกอะไร นอกเสียจากความรู้สึกผิดและเสียใจ...
.....................................................
“จะมองให้คิบอมทะลุไปเลยมั้ยฮะพี่ฮัน”เสียงแซวกวนๆแบบนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก.....คังอิน...
“นายแอบมองฉันหรือไงฮะ”ฮันคยองที่ยืนกอดอกมองคิบอมไม่วางตา แม้กระทั้งพูดกับคังอินแต่สายตาก็ยังไม่ละกับสิ่งที่จดจ้องอยู่ตรงหน้า…
“555+ ไม่ได้แอบมองฮะ แต่บังเอิญเห็น...ทำไมไม่เข้าไปละครับ ปกติเห็นอยู่ด้วยกันไม่ห่าง”คังอินถาม...ร่างสูงก้มหน้าลงแค่นยิ้ม...ไม่ตอบอะไร
“ยิ้มแบบนี้ผมจะรู้มั้ย...”คังอินถามงงๆ ใบหน้าส่อแววฉงน
“ก็ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ที่ของฉันสักหน่อย”ฮันคยองตอบเบาๆ...แล้วก้มหน้าลง มอบรอยยิ้มน้อยๆให้กับตัวเอง...
“ห๊ะ พี่ตอบว่าอะไรนะฮะ”คังอินเอียงหูเข้ามาใกล้ๆ เมื่อร่างสูงตอบเบาเสียจนเขาไม่ได้ยิน
“ชั่งเหอะ นายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วไป”ฮันคยองไล่ให้คังอินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ไม่อยากตอบอะไรใคร...ไม่อยากตอกย้ำให้หัวใจตัวเองมันทรมาณมากไปกว่านี้...
..............................................................
1...วัน
3...วัน
9...วัน
และ วันที่ 10 จนถึงวันนี้ ทั้งฮันคยองและคิบอมก็ยังคงไม่ได้พูดอะไรกัน มีเพียงสายตาที่ทำหน้าที่สบกันพอให้หายคิดถึง หากแต่สบตากันแต่ละครั้งมันชั่งเป็นเวลาที่รวดเร็วเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมา แล้วก็หายไป...
...มันไม่สามารถบอกอะไรที่อัดอั้นอยู่ภายในใจได้เลย...
“คยูฮยอน นายเอาน้ำนี่ไปให้คิบอมทีสิ”ฮันคยองเรียกรุ่นน้องที่กำลังจะเดินผ่านเอาใว้ แล้วยื่นขวดน้ำให้...
“เอ่อ...ผม กำลังรีบไปหาพี่คังอินน่ะครับ ขอโทษจริงๆนะครับ”คยูฮยอนตอบด้วยรอยยิ้มแหยๆ...จริงๆแล้วเขาเองก็ไม่ได้รีบ ร้อนอะไรมากนักหรอก...แต่ปัญหาของคนสองคนเขาเองก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง... อยากให้ทั้งสองคนจัดการกันเองมากกว่า...
“อ้าวเหรอ ไม่เป็นไรๆ ไปเถอะ”ฮันคยองก็ตอบออกไปยิ้มๆเช่นกัน...
“พี่ ฮันเอาไปให้เองดีกว่านะครับ มาแอบเป็นห่วงแบบนี้ เมื่อไหร่พี่คิบอมจะรู้จะเข้าใจล่ะครับ บางทีพี่คิบอมอาจจะรออยู่ก็ได้นะ ถ้าเป็นแบบนั้นพี่ฮันว่าพี่คิบอมไม่น่าสงสารเหรอครับ”คยูกล่าวแนะรุ่นพี่ของตัวเอง...แล้วยิ้มให้กำลังใจกับฮันคยองก่อนจะรีบเดินออกไป...
.
.
.
.
.
“ฮัน คยองยืนมองขวดน้ำขวดนั้นอยู่นาน ลองอีกสักครั้งดีมั้ยนะ...ถ้าคราวนี้ไม่สำเร็จค่อยว่ากัน”ฮันคยองคิดในใจ แล้วจับขวดน้ำขวดนั้นแน่น...ก่อนจะค่อยๆเดินไปหาคนที่นั่งอยู่คนเดียวท่าทาง เหนื่อยๆ
“หืม...”คิบอมตกใจที่อยู่ดีๆก็มีขวดน้ำยื่นมาให้ตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆแหงนหน้าขึ้นไปมองเจ้าของขวดน้ำขวดนั้น...
“ให้ คนผิดหรือเปล่าครับ”คนที่ตัวเล็กกว่ากล่าวก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนเดิม...ท่าทางเฉยชาแบบ นี้ หากแต่พี่ฮันจะรู้มั้ยว่าในใจของผมมันตื่นเต้นมากมายแค่ไหน...
“นาย ชื่อคิม คิบอมหรือเปล่าล่ะ ฉันเอามาให้เขา”ฮันคยองตอบ…ภายในใจตื่นเต้นไม่แพ้กัน หากไม่สำเร็จอะไรจะเกิดขึ้นกับหัวใจของเขากันนะ...
“เอา วางใว้สิครับ ถ้าผมเจอแล้วจะเอาให้เขา”คิบอมตอบ ไม่ได้หันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังแต่อย่างใด...ทั้งๆที่คิดถึงใบหน้านั้น มากมายเหลือเกิน....
“ฝากบอกเขาอีกหน่อยได้หรือเปล่า?”
“.................................................”
“ฝากบอกเขาที ว่าฮันคยองคนนี้ รักแล้วก็คิดถึงเขามาก”
“..............................................”
“ได้มั้ย?”
“.................................................................”
.
.
.
...เมื่อทำอย่างไรคนที่นั่งอยู่ก็ยังคงเงียบไม่ตอบอะไร คนที่ยืนอยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเจ็บปวด...ไม่สำเร็จสินะ...ยังไงๆก็ ยังคงไม่ใช่ที่ของฮันคยองคนนี้...
...เมื่อ คิดได้อย่างนั้น ร่างสูงก็ได้แต่ยืนมองร่างของคนที่เขารักจากด้านหลัง เมื่อรู้ตัวว่ามันหมดเวลาของตนเองแล้ว เขาจึงตัดสินใจหันหลังเพื่อจะเดินออกมา...เขาไม่อยากให้คิบอมอึดอัดใจเพราะ เขาอีกต่อไปแล้ว...
“เขาก็ฝากบอกมาเหมือนกันว่า.................................................”
“...........?”ฮันคยองชะงักเท้าทันที...และฟังอย่างใจจดใจจ่อ จะมีสักกี่ครั้งกันที่ผมตื่นเต้นขนาดนี้
“ผมขอโทษ...ผมก็คิดถึงและรักพี่ฮันเหมือนกัน”
...คนตัวสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังโซฟาก้มลง มือใหญ่จับปลายคางร่างที่นั่งอยู่ให้แหงนขึ้น ศรีษะพิงพนักของโซฟา...ฮันคยอง โน้มใบหน้าประทับริมฝีปากของตัวเองลงไปบนริมฝีปากแดงระเรื่อ...คิบอมยกมือซอ ดไปที่ท้ายทอยของร่างที่ยืนอยู่ แล้วกดลงให้ริมฝีปากแนบแน่นด้วยความคิดถึง...
...ลิ้นร้อนที่ไม่ตั้งใจจะส่งผ่านเข้าไป หากแต่มันก็หยุดไม่อยู่อีกแล้ว...ฮันคยองดูดเม้มปลายลิ้นสีชมพูเข้มของร่างที่นั่งอยู่ สอดลิ้นไล่วนอย่างโหยหา...คิดถึงเหลือเกิน คิม คิบอม...
ทั้ง สองผละกันออกแล้ว...ฮันคยองเดินอ้อมโซฟาไปยืนตรงหน้าคิบอม แล้วจับร่างโปร่งให้ยืนขึ้น คิบอมได้แต่ก้มหน้าหลบตา...เขาเป็นคนขี้อายใครๆก็รู้
“กอดนะ...”ฮันคยองกระซิบบอกเหมือนเป็นการขอคิบอม
“ถ้าถามจะตอบว่าไม่”คิบอมตอบ...ทำเอาร่างสูงยิ้มกว้าง...
“ถ้า อย่างนั้น...ไม่ถามจะทำเลยก็ได้ใช่มั้ย”ฮันคยอมถามยิ้มๆ ...โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น จนได้กลิ่นหอมจากแก้มของคนตัวเล็กกว่า ทั้งๆที่ปลายจมูกยังไม่ทันได้สัมผัส...
“บอกว่าไม่ให้ถามยังไงล่ะ...ถ้าถามอีกทีก็ปล่อยผมเลยนะ”คิบอมเงยหน้าตอบเสียงดุ ก็รู้อยู่ว่าเขิน เขิน เขิน...
…ทันทีที่คิบอมพูดจบ ฮันคยองก็รวบคิบอมใว้ในอ้อมกอดทันที คิบอมยกแขนทั้งสองข้างโอบรอบคอของฮันคยองใว้..
....คิดถึง ไม่มีพี่ฮันคอยดูแล ไม่มีพี่ฮันคอยให้ความอบอุ่น ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของพี่ฮัน ไม่ได้คุยกับพี่ฮัน มันชั่งเหงาเหลือเกิน...คิบอมซุกหน้าลงที่อกของฮันคยอง...
...เขารู้สึกไปเองหรือเปล่านะ ร่างในอ้อมกอดนั้นสั่นน้อยๆ ความเปียกชื้นที่หน้าอก คิบอมร้องไห้?...เขาไม่อยากจะเชื่อ คิบอมใว้ใจเขาถึงขนาดที่ร้องให้ในอ้อมกอดของเขาอย่างนั้นเหรอ...ฮันคยองค่อยๆกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีก...
“ผมขอโทษฮะ...พี่ฮัน”คิบอมพูดเสียงอู้อี้อยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง
“อื้ม สักวันฉันจะไปยืนอยู่ในหัวใจของนายให้ได้ คิม คิบอม...
สักวันที่ตรงนั้นจะเป็นของฉันคนเดียว”ฮันคยองพูดพร้อมทั้งเอามือลูบศรีษะคนในอ้อมกอดเบาๆ...
...คิม คิบอมตอบแทนคำพูดนั้นด้วยแรงกระชับอ้อมแขนที่แน่นขึ้น...
.................................................................
“ทงเฮ...”
“ว่าไงคิบอม”ทงเฮหันมายิ้มให้กับคิบอม
“เปล่าหรอก แค่จะลองดูว่าทงเฮลืมสัญญาหรือเปล่าเท่านั้นเอง”คิบอมตอบยิ้มๆ เห็นทงเฮยิ้มได้แบบนี้เขาก็สบายใจแล้วแหละ
“แล้ว ไง เห็นแบบนี้ฉันก็เป็นคนรักษาสัญญานะ ว่าแต่รอยที่คอนั่นพี่ฮันทำเหรอ!!”ประโยคหลังทงเฮพูดดังซะจนทุกคนในหอหันมา มองคิบอมเป็นตาเดียว...
“ห๊า~~รอยอะไร ไม่มีสักหน่อย นายตาฝาดไปแล้วหล่ะทงเฮ ฉันไปดีกว่า”คิบอมตอบเขินๆ แล้วก็เตรียมตัวจะชิ่งกลับหอตัวเอง...แต่คังอินก็มาขวางใว้
“เดี๋ยว ขอดูหน่อย”คังอินยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก็มาดึงเสื้อคิบอมเปิดออก...คิยอมพยายาม เบี่ยงตัวหนี แต่คังอินไม่ยอม ตามมาตะครุบคิบอมจนได้...
“เห้ย! ทำอะไรคิบอม”เสียงดุดังมาจากคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่...ทุกคนหันไปมองจึงเห็นว่าเป็นฮันคยองนั่นเอง
“เปล่า...เปล่าฮะพี่ฮัน”คังอินมองหน้าฮันคยองแล้วนึกกลัว มาโหมดโหดแบบนี้เขาเองก็ไม่สู้หรอก...
“มาทำอะไรคิบอม”ร่างสูงหันมาพูดกับคิบอม เสียงเปลี่ยนไปเหมือนคนละคน...จนทุกคนแอบยิ้มกระหยิ่มกันเป็นแถวๆ
“มาหาทงเฮฮะพี่ฮัน...มาดูว่าทงเฮทำตามสัญญาหรือเปล่า”ร่างโปร่างตอบแล้วหันไปยิ้มให้ฮันคยอง...
“อื้ม สบายใจได้แล้วสินะ”ฮันคยองลูบหัวคิบอม แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน...คิบอมก็หันไปยิ้มให้ฮันคยองเช่นกัน
...เรื่องความรัก มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก...
...ต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะตามหามันเจอ...
...ต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะเข้าใจมันถูกทุกอย่าง...
...ต้องใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะลืมมันลง...
‘เรื่อง ความรักต้องใช้เวลาอย่างมากเลยหล่ะ...เพราะฉะนั้นก็อย่าเพิ่งท้อนะถ้าความรัก ของคุณยังไม่สมหวัง สักวันที่ตรงนั้นจะเป็นของคุณ...’
The End….
^Talk^.
..ฝากด้วยนะค่ะ เราชอบบอมเคะค่ะ
เอาไว้เจอกันเรื่องหน้านะค่ะ...
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์กันนะค่ะ ^^
ผลงานอื่นๆ ของ JoChan ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ JoChan
ความคิดเห็น